You have been invited to contribute to stru.tech

Hello,

The purpose of this message is to inform you that News has invited you to contribute to their blog "stru.tech". To accept this invitation, click on the button below.

Accept invitation

Important: You will need to sign-in with a Google Account to accept the invitation and start contributing to this blog. If you don’t have a Google Account you can create one here.

Happy blogging,

The Blogger Team

อดีตเมียแฉ พ่อขืนใจลูกสะใภ้ เคยก่อวีรกรรมกับหลานในไส้ แฟนเก่าลูกก็ไม่เว้น

25 พ.ค. 2563 เวลา 22:42 น.



กรณีพบศพถูกฆ่ายัดกระสอบฝังดิน บนเนินเขาป่าสวนยาง ในพื้นที่หมู่ 9 ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา เหลือเพียงโครงกระดูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วเกือบ 1 เดือน เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ทราบชื่อผู้ตายคือ นายชาญชัย ปลอดแก่นทอง อายุ 21 ปี มารับจ้างกรีดยางอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ กระทั่งจับกุม นายอรุณ ปลอดแก่นทอง อายุ 41 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ สาเหตุพ่อไปแอบมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเมียของลูกชาย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดวันที่ 25 พ.ค. ที่ สภ.นาหม่อม จ.สงขลา พนักงานสอบสวน สภ.นาหม่อม ได้ควบคุมตัว นายอรุณ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสงขลาและคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดี 2 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ

ขณะคุมตัวไปฝากขัง นายอรุณ ยังมีสีหน้าเรียบเฉย ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว และระหว่างนำตัวขึ้นรถ ได้มีภรรยาคนปัจจุบันของ นายอรุณ และลูกชายอายุ 11 ขวบ เดินเข้ามาสวมกอดกันสามคนพ่อแม่ลูก เมียและลูกชายถึงกับร้องให้โฮและลูกชายขอให้พ่ออยู่อย่างสุขสบาย ขณะที่ภรรยาคนปัจจุบันได้เตรียมเงิน 7 แสนบาท เพื่อยื่นประกันตัวในชั้นศาล


ซึ่งวันนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญตัว น.ส.รจนา เหล็มปาน อายุ 20 ปี ภรรยาของผู้ตาย แม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยง มาให้ปากคำประกอบสวนคดีเพิ่มเติม โดย น.ส.รจนา ได้พาลูกชายที่เพิ่งคลอดได้ 9 เดือนเดินทางมาด้วย และหลังจากให้ปากคำเสร็จก็จะเดินทางไปทำพิธีอัญเชิญวิญญาณบนเขาจุดเกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าไม่ทันต้องเลื่อนไปในวันที่ 26 พ.ค. และต้องขอเอกสารจากตำรวจเพื่อไปยื่นเรื่องขอรับศพที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง

ด้าน นางวันวิสา รามทิพย์ อายุ 40 ปี แม่แท้ๆ ของผู้ตาย และ นายประสิทธิ์ รามทิพย์ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ได้เปิดเผยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ นายอรุณ ก่อเรื่องเช่นนี้ พยายามปลุกปล้ำขืนใจหลานแต่ไม่สำเร็จ ปลุกปล้ำอดีตแฟนของลูกชายที่เคยมาอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าใน อ.นาหม่อม แฟนเก่าของลูกหนีไปไม่กลับ และมาทำกับเมียลูกชายอีก แต่เป็นเพราะเพิ่งคลอดลูกชายได้ 9 เดือน และป่วยเป็นทาลัสซีเมีย เมียลูกชายจึงต้องจำใจอยู่เพื่อลูก

นางวันวิสา กล่าวต่อว่า ตอนที่ลูกชายหายไป นายอรุณ ยังโทรศัพท์มาหาที่บ้านว่า ลูกชายกลับไปหรือไม่ ซึ่งตนก็บอกว่าไม่ได้กลับ และทำทีพูดว่าเดี๋ยวก็กลับมาเพราะหายไปแบบนี้ประจำ และขอให้น้องชายของ นายชาญชัย ไปช่วยกรีดยางที่ อ.นาหม่อม แต่ตนเชื่อว่าน่าจะหลอกมาฆ่าปิดปากอีกคน เพราะรู้เรื่องพฤติกรรมของคนเป็นพ่อดี


ไม่มีคำบรรยายใดๆ ที่จะพูดหรือสาปแช่ง นายอรุณ เพราะเกินกว่าคำว่าเดรัชฉาน ลูกแท้ๆ ยังฆ่าได้ลงคอ และเชื่อว่าไตร่ตรองมาก่อน ตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้เลี้ยง แต่พอโตก็เอาไปทำงานและยังมาฆ่าอีก ขอให้ได้รับโทษประหาร ตอนที่ลูกชายเสียชีวิต ก็มีลางสังหารคือต่างหูข้างซ้ายหลุดหยิบมาใส่ก็หลุดและ ร้อนรุ่มในอกจนอยู่ไม่ติด นางวันวิสา กล่าว

ขณะที่ น.ส.รจนา กล่าวว่า หลังจากที่สามีได้หายไป มีอยู่คืนหนึ่งพ่อเลี้ยงบอกว่าสามีมาถามหาตนกับลูกที่บ้าน และเดินมาดูตนกับลูกพอหันไปก็ไม่เห็นแล้ว เช่นเดียวกับเพื่อนของสามีอีกคน ที่มาเล่าว่าขรารถจยย.ผ่านหน้าบ้านและเห็นสามีนั่งอยู่หน้าบ้านจึงพูดทักทายเหมือนปกติ โดยที่ไม่ทราบว่าเสียชีวิตแล้ว ในคืนวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งเป็นคืนที่สามีถูกฆ่า ลูกชายร้องให้กรีดออกมาดังลั่นและร้องให้ไม่ยอมหยุด ไม่เหมือนกับช่วงปกติ จึงเชื่อว่าวิญญาณของสามีน่าจะกลับมาวนเวียนอยู่



:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

แมทธิว ลิเดีย รับรางวัลจากสนามมวยโลก WBC

เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ สำหรับ แมทธิว ดีน ดารานักแสดงและพิธีกรสนามเวทีมวยชื่อดัง พร้อมด้วยแฟนสาว ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่าตนติด CO VID จากเวทีมวย พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้คนในวันดังกล่าวออกไปตรวจ พบว่ามีผู้ติดจำนวนมากจากสนามมวย แต่สุดท้ายทุกคนได้รับการรักษาจนหายกลับบ้านได้แล้ว ล่าสุดสภามวยโลก WBC มอบรางวัล Heroes of Humanity ยกย่องความกล้าหาญของทั้งสองคนที่กล้าออกมาเปิดเผยความจริง จนสามารถควบคุมการแพร่กระจายของ CO VID ที่มาจากสนามมวยได้สำเร็จ⁣





ลิเดีย แมทธิว





พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า สภามวยโลก เล็งเห็นคุณงามความดีของคุณแมทธิว ดีน และคุณลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ในความกล้าหาญที่เปิดเผยอาการติด CO VID ของตัวเองให้สาธารณชนรับทราบ ซึ่งได้สร้างความตระหนักให้แก่สังคมเป็นวงกว้างในการเฝ้าระวังด้วยความไม่ประมาท รวมถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของ ผศ.นพ.วิชัย เตชะสาธิต ซึ่งได้ทุ่มเทชีวิตในการรักษาทุกชาติศาสนาให้หายจาก CO VID เป็นจำนวนมากมายหลายชีวิต จึงได้พิจารณามอบรางวัล Heroes of Humanity หรือรางวัล ฮีโร่ของมวลชน





ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษที่ทาง WBC จะมอบให้กับบุคคลซึ่งเป็นแบบอย่างการทำความดีของประเทศต่างๆ ทั่วโลก





สำหรับรางวัล Heroes of Humanity นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรติให้แก่บุคคลที่ได้เสียสละอุทิศตน และเป็นแบบอย่างที่ดี ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในวิกฤตการณ์นี้ โดยแต่ละประเทศทั่วโลกได้คัดเลือกบุคคลและเสนอให้ทาง WBC พิจารณามอบรางวัลให้ ซึ่งมีผู้มีชื่อเสียงในวงการมวยโลกได้รับรางวัลนี้ด้วยหลายท่าน อาทิเช่น ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดนักมวยชาวอเมริกัน เป็นต้น





ดีใจกับ แมทธิว ลิเดีย ด้วยนะคะ ที่ได้รับรางวัล Heroes of Humanity ยกย่องความกล้าหาญของทั้งสองคนที่กล้าออกมาเปิดเผยความจริง จนสามารถคุมการแพร่กระจายของ CO VID ได้


เรียบเรียง siamtoday

เลขเด็ด |เฮงอีกแล้วเข้า 2ตัวบนตรงๆ 95 งวดที่แล้ว 01/6/63: หวยงวดนี้

Khaosod ข่าวสด กลุ่มสาธารณะ · สมาชิก 1 คน เข้าร่วมกลุ่ม

ธนาธร แจงปม คณะก้าวหน้า ระดมทุน 7.2 ล้าน แจกคนละ 3 พัน ไม่ต้องพิสูจน์ความจน

ธนาธร แจงปม คณะก้าวหน้า ระดมทุน 7.2 ล้าน แจกคนละ 3 พัน ไม่ต้องพิสูจน์ความจน ยัน แจกจริง โอนให้คนเดือดร้อนทุกบาททุกสตางค์





ภาพจาก เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement






ภาพจาก เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement


จากกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า นำทีมคณะก้าวหน้า จัดคอนเสิร์ตระดมทุน "#MAYDAYMAYDAY เราช่วยกัน" เพื่อผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 โดยนายธนาธร ระบุว่า ใครที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และต้องการความช่วยเหลือ สามารถส่งข้อความขอความช่วยเหลือได้ที่อินบ็อกซ์เพจคณะก้าวหน้า ผู้ที่เดือดร้อนรับได้เลยทันทีอย่างถ้วนหน้า 3,000 บาท โดยไม่ต้องพิสูจน์ความจน ซึ่งยืนยันไม่ใช่เงินจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจแต่เป็นเงินจากผู้ใจบุญบริจาคระดมทุนเข้ามา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น




อ่านข่าว : คณะก้าวหน้า อธิบายชัด ๆ แจกเงิน 3,000 บาท แจกไปแล้วกว่า 1 ล้าน เป็นเงินจากใคร







ภาพจาก เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement


เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ชี้แจงประเด็นที่มาของเงิน และประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าแจกเงินจริงหรือไม่ และทีมงานก้าวหน้าเก็บเงินไว้เองหรือเปล่า




โดยนายธนาธร ระบุว่า ตนรับรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก covid 19 ทางคณะก้าวหน้าจึงจัดคอนเสิร์ตออนไลน์ #MAYDAYMAYDAYเราช่วยกัน รู้ดีว่าเป็นงานเล็ก ๆ เงินบริจาคอาจจะไม่ได้มาก ไม่สามารถเยียวยา ช่วยเหลือทุกคนอย่างทั่วถึงได้ แต่ก็สามารถแบ่งเบาความทุกข์ยากของประชาชนไปได้บางส่วน ซึ่งหลังจากจบงานก็ระดมทุนไปได้ 7,282,897.34 บาท สามารถส่งต่อให้ผู้ขอรับสิทธิ์ "ลงทะเบียนรับเงิน 3,000 บาท" เป็นจำนวน 2,427 คน โดยขณะนี้โอนเงินไปได้ 855 คนแล้ว




ภาพจาก เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement




นายธนาธร ระบุอีกว่า ทราบดีว่าวิธีการนี้ไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน เพราะทางออกที่ยั่งยืนคือการใช้งบประมาณภาษีประชาชน มาช่วยดูแลประชาชนที่ขาดรายได้เพราะอยู่บ้านเพื่อชาติ แต่ชาติกลับไม่เหลียวแล หากมีการดูแลถ้วนหน้าจริง คณะก้าวหน้าคงไม่ต้องจัดงานนี้ อยากให้ทุกคนเข้าใจเจตนาว่าเราต้องการแบ่งเบาภาระประชาชน




ส่วนกรณีที่มีคนเข้าใจผิดว่า คณะก้าวหน้าโกงเงินบริจาคนั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เพราะไม่คุ้มกับการเอาชื่อเสียงและเกียรติยศมาแลกเงินกว่า 7 ล้านบาท เงินทุกบาททุกสตางค์ถูกส่งให้กับคนที่เดือดร้อนทั้งหมด ไม่มีการเก็บค่าบริหารจัดการใด ๆ ทั้งสิ้น


ส่วนเรื่องการเปลี่ยนกฎการรับเงิน กำหนดรหัส 24 และ 75 นั้น เพื่อต้องการให้มีการกำหนดการโอนเงินเป็นรอบ ๆ และมีผู้ส่งข้อความมาในอินบ็อกซ์เพจจำนวนมากทำให้อินบ็อกซ์ล่ม จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบด้วยการให้มาลงทะเบียนในกล่องข้อความที่ใช้สำหรับแสดงความคิดเห็นแทน และกำหนดว่าอย่าส่งเลขบัญชีธนาคารผ่านมาทางนี้โดยทีมงานจะเป็นผู้ติดต่อกลับไปเอง







ภาพจาก เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement










>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่

ผู้ประกอบการ 350 แห่ง ส่อโดนสั่งปิด หลังได้คลายล็อก แต่แหกกฎป้องกันโควิด 19

พบผู้ประกอบการกว่า 350 แห่ง ที่ได้รับการผ่อนปรนให้เปิด แต่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดป้องกัน โควิด 19 เสี่ยงทำเชื้อระบาดเพิ่มขึ้น - ตร. ลั่น ถ้ายังฝ่าฝืนเตรียมเสนอสั่งปิดทันที



ภาพจาก amnat30 / Shutterstock.com


วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ไทยโพสต์ รายงานว่า พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยผลการปฏิบัติงานของสายตรวจสถานบริการ และจัดกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายตามมาตรการของรัฐบาล ระบุว่า สถานที่ได้มีการผ่อนปรนตามาตรการกว่า 9,400 แห่งทั่วประเทศ พบว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จำนวนกว่า 350 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตักเตือนและให้คำแนะนำกว่า 2,600 แห่ง


ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการ ร้านค้า และสถานบริการ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยทหาร ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข ซึ่งเป็นชุดสายตรวจร่วมปฏิบัติ ในการตรวจสถานที่ที่ได้รับการผ่อนปรน จะใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือนและให้ดำเนินการตามข้อกำหนด เช่น การรักษาความสะอาด การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ


อย่างไรก็ตาม หากพบว่ายังว่ามีการฝ่าฝืน ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อการป้องกันและการแพร่ระบาดของ COVID 19 จะเสนอผู้มีอำนาจสั่งปิดสถานที่ที่ฝ่าฝืนนั้น


>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่


ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์

คู่มือเดินทางข้ามจังหวัดยุค Covid 19 พร้อมหลักฐานที่ต้องเตรียมในการเดินทาง

รัฐบาลออกข้อกำหนดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในมาตรการป้องการแพร่ของ Covid 19 และเป็นข้อกำหนดที่ออกมาในช่วงสัปดาห์ที่มีวันหยุดหลายวันติดต่อกัน เพื่อชะลอหรือไม่ต้องการให้คนเดินทางกลับต่างจังหวัด



ข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2549 (ฉบับที่ 5) โดยให้ผู้ที่การเดินทางข้ามเขตจังหวัดมีแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อป้องกันการแพร่ของ Coviid 19

โดยเฉพาะ ข้อกำหนด ข้อที่ 5 ที่ระบุว่า ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพิ้นท่ีจังหวัด เว้นแต่มีความจําเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตผุลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งต้องรับการตรวจคัดกรอง และต้องปฏิบัติตาม มาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกําหนดอันอาจทําให้การเดินทางต้องใช้เวลามากกว่าปกติ และไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง



อย่างไรก็ตาม ในแต่ละเขตจังหวัดมีความเสี่ยงแตกต่างกัน ซึ่งตามข้อกำหนดยังให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนดแนวทางปฏิบัติ จึงทำให้เกิดความสับสนหลังจากประกาศใช้ในราชการกิจจานุเบกษา


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 5)

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องเตรียมตัวและเตรียมเอกสาร เพื่อเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจในแต่ละจังหวัดมีมีการแยกผู้เดินทางออกเป็น 4 กลุ่ม



1 กลุ่มคนทั่วไป ต้องอธิบาย มีเหตุผลพร้อมหลักฐานประกอบการเดินทาง

2 คนที่ผ่านการกักตัวแล้ว จะได้รับใบรับรองการกักตัวเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

3 มาจากพื้นที่เสี่ยง ต้องมีหลักฐานประกอบชัดเจน

4 กรณี จ.ภูเก็ต มีใบรับรองจากจ.ภูเก็ตเพื่อเดินทางข้ามเขตจังหวัด ทุกจังหวัดมีกรอบแนวทางปฏิบัติขึ้นกับพื้นที่ และบางพื้นที่อาจมีมาตรการกักตัวอยู่บ้าน 14 วัน

ที่มา สรุปสถานการณ์ Covid 19


:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้